Microsoft Power BI License

Microsoft Power BI และ Microsoft Fabric เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก โดย Power BI เน้นการสร้างรายงาน การแสดงผล และการทำงานร่วมกันของข้อมูล ในขณะที่ Microsoft Fabric ขยายความสามารถไปยังการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และการจัดการทรัพยากรข้อมูลที่ซับซ้อนในระดับองค์กร ทั้งสองเครื่องมือนี้มักถูกใช้งานควบคู่กันเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการทั้งในเรื่องของการวิเคราะห์และการจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ 

เพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่างของ License ที่มีให้เลือกสำหรับ Power BI และ Fabric จึงได้มีการเปรียบเทียบเพื่อช่วยให้ผู้ใช้หรือองค์กรสามารถเลือก License ที่เหมาะสมตามความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในระดับบุคคล การทำงานร่วมกันในทีม หรือการประมวลผลข้อมูลในองค์กรขนาดใหญ่ 

ภาพรวมของ Power BI License และ Product ที่เกี่ยวข้อง

License แต่ละอันของ Power BI ต่างกันอย่างไร : ภาพรวมของ Power BI License และ Product ที่เกี่ยวข้อง
Ref: https://rdbi.co.th/microsoft-power-bi-buy-license/

License ของ Microsoft Power BI

  1. Power BI Free
  • เป็น License สำหรับบุคคล (ใช้งานคนเดียว)
  • สามารถจัดเก็บ และแสดงผลรายงานที่สร้างจาก Power BI Desktop ได้
  • สามารถสร้างและแก้ไขรายงาน รวมถึงสร้าง Data Model ใน Power BI Desktop ได้
  • สามารถสร้างรายงานใหม่บน Power BI Service ได้ โดยอ้างอิงจาก Dataset ที่มีอยู่แล้วซึ่งถูกอัปโหลดจาก Power BI Desktop
  • รองรับการรีเฟรชข้อมูลอัตโนมัติ สามารถใช้งานฟีเจอร์หลักๆ ได้ครบ
  • มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลรายงาน 10GB และตั้งค่าการรีเฟรชได้ 8 ครั้งต่อวัน
  • โดยผู้สร้างรายงาน (Owner) ทำการสร้างรายงานจาก Power BI Desktop แล้วทำการ Publish ตัวรายงานไปเก็บไว้บน Power BI Service โดย Owner สามารถมาใช้งานตัว Report ที่เก็บไว้บน Power BI Service ได้ โดยเข้าใช้งานผ่าน Web Browser หรือ Power BI Mobile
  • ข้อจำกัด: ผู้ใช้งานอื่น จะไม่สามารถเข้ามาดูรายงานของ Owner ได้ (นอกจากจะแชร์แบบ Public Link เท่านั้น)
License แต่ละอันของ Power BI ต่างกันอย่างไร : Microsoft Power BI Free Architecrure
Ref: https://monsterconnect.co.th/power-bi-free-vs-pro-vs-premium/

2. Power BI Pro

Power BI Pro มีฟีเจอร์พื้นฐานเช่นเดียวกับ Power BI Free สำหรับการสร้างและแสดงผลรายงาน แต่เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันภายในองค์กรและการแชร์ข้อมูลอย่างปลอดภัย

  • ฟีเจอร์เพิ่มเติมของ Power BI Pro:
    • การแชร์รายงานและ Dataset กับผู้ใช้อื่นในองค์กร ผู้รับต้องมี License Power BI Pro เพื่อเข้าถึงรายงานและข้อมูลที่แชร์
    • การตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับรายงานและข้อมูล เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงรายงานในระดับบุคคลหรือกลุ่ม
    • มีพื้นที่เก็บข้อมูล 10GB ต่อผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นขีดจำกัดเดียวกันกับ Power BI Free
    • รองรับการตั้งค่าการรีเฟรชข้อมูลอัตโนมัติได้สูงสุด 8 ครั้งต่อวัน ซึ่งเหมือนกับ Power BI Free
    • สามารถทำงานร่วมกันและแชร์รายงานกับผู้อื่นในองค์กรได้ โดยผู้ใช้งานปลายทางต้องมี License Power BI Pro เช่นกัน
License แต่ละอันของ Power BI ต่างกันอย่างไร : Microsoft Power BI Pro Architecrure
Ref: https://monsterconnect.co.th/power-bi-free-vs-pro-vs-premium/

3. Power BI Premium Per User (PPU)

  • มีฟีเจอร์ครบถ้วนจาก Power BI Pro แต่เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดเก็บและประมวลผล
  • ฟีเจอร์เพิ่มเติม:
    o เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็น 100TB
    o รองรับการประมวลผลไฟล์รายงานขนาดใหญ่และการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน
    o ตั้งค่าการรีเฟรชข้อมูลได้สูงสุด 48 ครั้งต่อวัน
  • การแชร์รายงาน: ผู้ใช้งานทั้งฝั่งผู้แชร์และผู้รับต้องมี License Power BI Premium Per User (PPU) เพื่อเข้าถึงรายงานที่แชร์
  • เหมาะสำหรับ: องค์กรที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลรายงานขนาดใหญ่หรือมีจำนวนผู้ใช้งาน Power BI Service มากขึ้น
  • ข้อจำกัด: ผู้ใช้งานต้องใช้ Email องค์กร ในการสมัคร ไม่สามารถใช้ Free Email เช่น Gmail, Yahoo

เพิ่มเติม: https://learn.microsoft.com/en-us/power-bi/enterprise/service-premium-per-user-faq


4. Power BI Embedded

  • เป็นบริการแบบ Platform-as-a-service (PaaS) บน Azure Cloud สำหรับผู้พัฒนาซอฟแวร์หรือ Application
  • เพื่อให้สามารถแสดงผลของ Visualization ของ Power BI เข้าไปรวมกับตัว Application ของได้ ทำให้สามารถแสดงผลของรายงานการทำงานผ่าน Power BI ได้เสมือนหนึ่งว่า ตัวรายงานของ Power BI เป็นส่วนหนึ่งของ Application ที่ผู้พัฒนาจัดทำขึ้น
  • โดยที่ผู้ใช้งาน Application ไม่จำเป็นต้องรู้จัก หรือมี License ของ Power BI เพราะการเข้าถึงต่างๆ จะอยู่ภายใต้การทำงานของ Power BI Embedded และ API ที่เกี่ยวข้อง
License แต่ละอันของ Power BI ต่างกันอย่างไร : Power BI Embedded
Ref: https://radacad.com/the-read-only-license-for-power-bi

เปรียบเทียบ Power BI Free, Pro , Premium per user และ Embedded



Microsoft Fabric (Power BI Premium Capacity)

1. Free Account

  • มีฟีเจอร์การทำงานเหมือนกับ Power BI Free
  • เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทดลองใช้งาน Power BI และ Microsoft Fabric โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับการสร้างรายงานและการใช้งานพื้นฐาน
  •  โดยมีข้อจำกัดด้านการแชร์รายงานและฟีเจอร์ขั้นสูง
  • ฟีเจอร์ที่มีใน Free Account:
    • การสร้างรายงานผ่าน Power BI Desktop
    • ไม่รองรับการแชร์รายงานและการทำงานร่วมกัน (ต้องใช้ License เสริม เช่น Power BI Pro)
    • ไม่รองรับฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Advanced AI, Dataflows, และ Datamarts

2. Fabric Capacity Reservation

  • Fabric Capacity Reservation คือการจองพื้นที่และประสิทธิภาพการใช้งานล่วงหน้าใน Microsoft Fabric โดยองค์กรสามารถเลือกขนาดพื้นที่และการประมวลผลตามความต้องการได้ล่วงหน้า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแบบคงที่ทุกเดือน
  • รองรับฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Advanced AI, Dataflows, และ Datamarts
  • สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และแชร์ข้อมูลภายในองค์กรได้
  • รองรับการรีเฟรชข้อมูลได้สูงสุด 48 ครั้งต่อวัน
  • ใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้สูงสุด 100TB สำหรับ Power BI Storage
  • เหมาะกับองค์กรที่ต้องการใช้งานอย่างสม่ำเสมอและต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

3. Fabric Capacity Pay-As-You-Go

  • Fabric Capacity Pay-As-You-Go เป็นการใช้งาน Microsoft Fabric แบบจ่ายตามการใช้งานจริง โดยไม่มีการจองพื้นที่ล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานในแต่ละเดือน ซึ่งให้ความยืดหยุ่นมากกว่า
  • ฟีเจอร์ของ Fabric Capacity Pay-As-You-Go ฟีเจอร์การทำงานเหมือนกับ Fabric Capacity Reservation
  • รองรับฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Advanced AI, Dataflows, และ Datamarts เช่นเดียวกับแบบจองพื้นที่
  • สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และทำงานร่วมกันในองค์กรได้
  • ใช้พื้นที่จัดเก็บได้สูงสุด 100TB สำหรับ Power BI Storage
  • รองรับการรีเฟรชข้อมูลสูงสุด 48 ครั้งต่อวัน
  • จ่ายเฉพาะเมื่อมีการใช้งานจริง ทำให้เหมาะสำหรับองค์กรที่มีการใช้งานไม่สม่ำเสมอ

เปรียบเทียบ Microsoft Fabric Capacity Reservation

และ Microsoft Fabric Capacity Pay-As-You-Go


Capacities and SKUs

Capacity ใน Microsoft Fabric คือชุดทรัพยากรที่สงวนไว้สำหรับการใช้งานขององค์กร โดยจะมี SKU (Stock Keeping Unit) ที่กำหนดขนาดและความสามารถของ Capacity ในแต่ละชุด การเลือก SKU จะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานขององค์กร ทั้งในด้านการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล

ประเภทของ SKU (Capacity Types) และความสามารถในการประมวลผล

  • F-SKU : รองรับทั้ง Power BI และ Microsoft Fabric โดยมีตั้งแต่ F2 (เล็กที่สุด) ถึง F2048 (ใหญ่ที่สุด)
  • A และ EM-SKU : รองรับการฝัง Power BI (Embedded) ใน Azure และสำหรับการใช้งานเฉพาะ Power BI
  • P-SKU : รองรับการใช้งาน Power BI Premium และ Fabric อย่างเต็มรูปแบบ (จะยกเลิกในเดือนกรกฎาคม 2024 ไปใช้ F-SKU แทน)

จากการเปรียบเทียบประเภท License ของ Power BI และ Microsoft Fabric พบว่าแต่ละประเภทมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้และองค์กร โดย:

  • Power BI Free เหมาะสำหรับผู้ใช้งานส่วนบุคคลหรือผู้ที่เริ่มต้นเรียนรู้การวิเคราะห์ข้อมูล
  • Power BI Pro และ Premium Per User เหมาะสำหรับการแชร์ข้อมูลและทำงานร่วมกันภายในองค์กร
  • Power BI Premium Capacity และ Fabric Capacity เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ทรัพยากรจำนวนมากหรือเน้นการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ ควรพิจารณาเลือก License ให้เหมาะสมตามปริมาณการใช้งาน ความต้องการในการทำงานร่วมกัน และความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการข้อมูลขององค์กร.

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

Tel: 021198405

Line: @M365th

Email: Sales@m365.co.th