Foxit PDF Editor vs Adobe Acrobat ต่างกันอย่างไร? ใช้ตัวไหนดี?

ในยุคดิจิทัลที่เอกสาร PDF เป็นมาตรฐานสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจและการศึกษา การเลือกซอฟต์แวร์จัดการ PDF ที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ Foxit PDF Editor และ Adobe Acrobat เป็นโปรแกรมชั้นนำในตลาดที่เสนอเครื่องมือครบถ้วนสำหรับการสร้าง แก้ไข และจัดการไฟล์ PDF แม้ทั้งสองโปรแกรมจะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่มีความแตกต่างที่โดดเด่นทั้งในด้านฟีเจอร์ ความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และราคา การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้เข้าใจว่าซอฟต์แวร์ตัวไหนเหมาะกับความต้องการมากที่สุด

ข้อแตกต่างสำคัญระหว่าง Foxit PDF Editor และ Adobe Acrobat

คุณสมบัติ	Foxit PDF Editor	Adobe Acrobat DC Standard	Adobe Acrobat DC Pro
สร้างและแก้ไข PDF	✅ ครบทุกฟังก์ชัน	✅ ครบทุกฟังก์ชัน	✅ ครบทุกฟังก์ชัน
OCR (แปลงเอกสารสแกนเป็นข้อความ)	✅ รองรับ OCR และลดขนาดไฟล์หลังสแกน	❌ ไม่มีฟีเจอร์ลดขนาดไฟล์หลังสแกน	✅ รองรับ OCR และปรับปรุงผลได้
ความสามารถในการแก้ไขขั้นสูง	✅ รองรับการเพิ่มเงา, วัตถุเวกเตอร์	❌ ไม่มีฟีเจอร์นี้	✅ มีฟีเจอร์ระดับมืออาชีพ
การแปลงไฟล์	✅ ส่งออกเป็น Word, Excel, HTML, รูปภาพ	✅ ส่งออกได้	✅ ส่งออกได้
การแชร์และทำงานร่วมกัน	✅ รองรับ SharePoint, Dropbox, OneDrive, Google Drive	❌ ไม่รองรับ Google Drive	✅ รองรับการแชร์บน Adobe Cloud
E-Signature & ลายเซ็นดิจิทัล	✅ รองรับการลงลายเซ็น	✅ รองรับ	✅ รองรับขั้นสูง
Redaction (ซ่อนข้อมูลสำคัญ)	✅ รองรับ	❌ ไม่มี	✅ รองรับการ Redact แบบละเอียด
การควบคุมสิทธิ์เอกสาร (Security & Encryption)	✅ รองรับเข้ารหัสและสิทธิ์ผู้ใช้	✅ รองรับ	✅ รองรับและมีฟีเจอร์ AD RMS
AI Assistant	✅ มี AI ช่วยแก้ไข PDF	❌ ไม่มี	❌ ไม่มี
ความสามารถในการซื้อขาด	✅ ซื้อขาดได้	❌ ต้องสมัครสมาชิก	❌ ต้องสมัครสมาชิก

ฟีเจอร์ที่ทั้งสามซอฟต์แวร์มีเหมือนกัน

• การสร้างเอกสาร PDF มาตรฐาน
• การสร้าง PDF จากไฟล์ต่างๆ (Word, Excel, PowerPoint, เว็บ)
• การรวมไฟล์ PDF
• การส่งออกเป็นรูปแบบต่างๆ (Word, Excel, PowerPoint, RTF, HTML, รูปภาพ)
• การแก้ไขข้อความพื้นฐาน ฟอร์แมต และออบเจ็กต์ในเอกสาร
• การตรวจสอบการสะกดคำ
• การจัดการหน้ากระดาษพื้นฐาน
• OCR และการสแกนเอกสาร
• การสร้างและจัดการฟอร์ม
• การเพิ่มลายเซ็นและการรักษาความปลอดภัยด้วยรหัสผ่าน

ฟีเจอร์ที่ Foxit PDF Editor มีแต่ Acrobat ไม่มี

• การบีบอัดไฟล์หลังจากการสแกน: Foxit สามารถทำได้ แต่ Acrobat ทั้งสองเวอร์ชันไม่มีฟีเจอร์นี้
• Link และ Join ข้อความ: Foxit มีฟีเจอร์นี้ แต่ Acrobat ทั้งสองรุ่นไม่มี
• แทรกหน้ากระดาษในเอกสารปัจจุบันไปที่เอกสารอื่น: Foxit ทำได้ แต่ Acrobat ทั้งสองรุ่นไม่มี
• การแก้ไข PDF ขั้นสูง: Foxit สามารถเพิ่มวัตถุแรเงา แปลงข้อความเป็นเส้นทาง แก้ไขรูปภาพและเส้นทางวัตถุได้ แต่ Acrobat ทั้งสองรุ่นไม่มีฟีเจอร์นี้
• ไฮไลท์เป็นพื้นที่: Foxit มีฟีเจอร์นี้ แต่ Acrobat ทั้งสองรุ่นไม่มี
• การทำงานร่วมกับ Evernote: Foxit สามารถเชื่อมต่อกันได้ แต่ Acrobat ทั้งสองรุ่นไม่มี
• การทำงานร่วมกับ OneDrive และ Google Drive: Foxit สามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ Acrobat ทั้งสองรุ่นไม่มี
• ใส่ลายเซ็นลงบนหลายๆหน้าโดยอยู่ตำแหน่งเดียวกัน: Foxit ทำได้ แต่ Acrobat ไม่มีฟีเจอร์นี้
• การใช้งาน eSignatures ร่วมกับ DocuSign: Foxit สามารถทำได้ แต่ Acrobat ทั้งสองรุ่นไม่มี
• การทำ Redact ผ่าน RMS ในไมโครซอฟต์: Foxit สามารถทำได้กับ Word, PowerPoint และ Excel แต่ Acrobat ไม่มีฟีเจอร์นี้
• การทำงานร่วมกับ Microsoft AD RMS: Foxit สามารถทำได้ รวมถึงลายน้ำความปลอดภัยแบบไดนามิกและบันทึกการใช้เอกสาร แต่ Acrobat ไม่มีฟีเจอร์นี้
• การปรับแต่งแท็บในริบบอน: Foxit อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างแท็บใหม่หรือปรับแต่งแท็บได้ แต่ Acrobat ไม่มี
• เปิด/แก้ไข/บันทึก PDF ใน OneDrive และ Google Drive โดยตรง: Foxit สามารถทำได้ แต่ Acrobat ไม่มีฟีเจอร์นี้
• โปรแกรมดูข้อความ: มีใน Foxit แต่ไม่มีใน Acrobat
• มุมมองเอกสารแบบ Multi-tab: มีใน Foxit แต่ไม่มีใน Acrobat
• เครื่องมือริบบอนแบบ Microsoft Office 2013: มีใน Foxit แต่ไม่มีใน Acrobat
• แว่นขยาย: มีใน Foxit แต่ไม่มีใน Acrobat
• เปิดและถอดรหัสเอกสาร PDF ที่เข้ารหัส RMS: Foxit สามารถทำได้ แต่ Acrobat ไม่มี

เปรียบเทียบฟีเจอร์หลักแบบละเอียด

📄 การสร้างและแก้ไขไฟล์ PDF

• Foxit PDF Editor และ Adobe Acrobat DC (Standard & Pro) สามารถสร้างไฟล์ PDF ได้จากศูนย์หรือจากแหล่งอื่น เช่น Microsoft Word, Excel, PowerPoint, หรือแม้แต่จากการสแกนเอกสาร
• ทั้งสองสามารถแก้ไขข้อความ รูปภาพ และโครงสร้างเอกสาร PDF ได้เหมือนกัน

🔄 การแปลงไฟล์ PDF

• Foxit PDF Editor และ Acrobat DC (ทั้ง Standard และ Pro) รองรับการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word, Excel, PowerPoint, HTML, และรูปภาพ
• อย่างไรก็ตาม Acrobat DC Pro มีความแม่นยำสูงสุดในการแปลงไฟล์ โดยสามารถรักษาโครงสร้างเอกสารต้นฉบับได้ดีกว่า

🔍 OCR (Optical Character Recognition)

• OCR เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถแปลงไฟล์เอกสารที่สแกนเป็นข้อความที่แก้ไขได้
• Foxit PDF Editor และ Acrobat DC Pro รองรับ OCR แต่ Acrobat DC Pro มีความแม่นยำสูงกว่าและสามารถแก้ไขผล OCR ได้โดยตรง
• Acrobat DC Standard ไม่มี OCR

🛡️ ความปลอดภัยของเอกสาร

• Foxit PDF Editor และ Acrobat DC Pro รองรับการ เข้ารหัสไฟล์ PDF (Password & Certificate Encryption), การกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้, และ การลงลายเซ็นดิจิทัล
• Acrobat DC Pro มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Redaction (การลบข้อมูลสำคัญออกจากเอกสารอย่างถาวร) ซึ่ง Foxit PDF Editor ก็รองรับเช่นกัน
• Foxit PDF Editor มีระบบ Digital Rights Management (DRM) ในตัวเพื่อป้องกันการเข้าถึงเอกสารโดยไม่ได้รับอนุญาต

🤝 การแชร์เอกสารและการทำงานร่วมกัน

• Foxit PDF Editor รองรับ Google Drive, OneDrive, SharePoint, Dropbox
• Acrobat DC Standard ไม่รองรับ Google Drive
• Acrobat DC Pro รองรับ Adobe Cloud และสามารถแชร์เอกสารผ่าน Adobe Document Cloud ได้

✍️ AI Assistant (เฉพาะ Foxit PDF Editor)

• Foxit เป็นโปรแกรม PDF แรกที่มี AI Assistant ช่วยในการ สรุปเนื้อหา ค้นหาข้อมูล แก้ไขข้อความ และ ทำความเข้าใจกับเอกสารได้อย่างรวดเร็ว
• Acrobat DC (ทั้ง Standard และ Pro) ยังไม่มี AI Assistant

เปรียบเทียบด้านราคา

โปรแกรม	ราคาซื้อขาด	ราคาสมัครสมาชิกรายปี
Foxit PDF Editor	✅ มีตัวเลือกซื้อขาด	✅ เริ่มต้นประมาณ $9.99/เดือน
Adobe Acrobat DC Standard	❌ ไม่มี ต้องสมัครสมาชิก	❌ เริ่มต้นประมาณ $12.99/เดือน
Adobe Acrobat DC Pro	❌ ไม่มี ต้องสมัครสมาชิก	❌ เริ่มต้นประมาณ $19.99/เดือน

• Foxit PDF Editor เป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่าเพราะสามารถซื้อขาดได้
• Acrobat DC Standard และ Pro ต้องสมัครสมาชิกรายเดือน/รายปี ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า

ควรเลือกใช้ตัวไหนดี?

เลือก Foxit PDF Editor เมื่อ:

• ต้องการฟีเจอร์การแก้ไข PDF ขั้นสูง
• ทำงานบ่อยกับบริการคลาวด์เช่น OneDrive หรือ Google Drive
• ต้องการการทำงานร่วมกับ Microsoft AD RMS
• มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการฟีเจอร์ครบถ้วน
• ต้องการอินเทอร์เฟซคล้าย Microsoft Office และการทำงานแบบ Multi-tab

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม เทคนิคการใช้งาน Foxit PDF Editor ให้มีประสิทธิภาพ

เลือก Adobe Acrobat Pro เมื่อ:

• ทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ Adobe อื่นๆ เป็นประจำ
• ต้องการความเข้ากันได้สูงสุดกับมาตรฐาน PDF
• มีความต้องการเฉพาะด้านการทำ Redact ขั้นสูง
• ทำงานในองค์กรที่ใช้ Adobe เป็นมาตรฐาน

เลือก Adobe Acrobat Standard เมื่อ:

• ต้องการฟีเจอร์พื้นฐานในการจัดการ PDF เท่านั้น
• ไม่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงเช่น Redact หรือแบบฟอร์ม XFA
• มีงบประมาณจำกัดแต่ต้องการความเข้ากันได้กับผลิตภัณฑ์ Adobe

สรุป

Foxit PDF Editor เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ครบถ้วนในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะสำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขขั้นสูงและการทำงานร่วมกับบริการคลาวด์ ในขณะที่ Adobe Acrobat (โดยเฉพาะรุ่น Pro) ยังคงเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมที่มีความเข้ากันได้สูงกับระบบนิเวศของ Adobe และเหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Adobe อื่นๆ อยู่แล้ว การเลือกว่าควรใช้ซอฟต์แวร์ตัวไหนขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะ งบประมาณ และสภาพแวดล้อมการทำงานของคุณ

บริษัท M 365 ตัวแทนจำหน่ายโปรแกรม Foxit PDF Editor และ Adobe ลิขสิทธิ์แท้ ออกใบกำกับภาษีได้ ราคาดีที่สุดสำหรับองค์กร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

Tel: 021198405

Line: @M365th

Email: Sales@m365.co.th